Zimbra ฟรีกับไม่ฟรี ต้องมองกันให้ถึงแก่น และเลือกให้ถูกกับความต้องการ จึงจะ....
ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง....
คุณผู้อ่าน...ท่านที่เคารพ มิตรรักของไอทีทริปเปิลพลัสครับ
ช่วงนี้บริษัทใหญ่ๆที่ใช้ Microsoft exchange อยู่ให้ความสนใจ Zimbra Mail เป็นทางเลือกหนึ่งในการตัดสินใจว่าจะขยับขยายไปเป็น MS Exchange เวอร์ชั่นถัดไป หรือจะเลือกใช้ Google Application โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่เทคโนโลยีไอทีกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความได้เปรียบในทางธุรกิจเหนือกว่าคู่แข่ง
Zimbra นั้นมีสองแบบครับ คือโอเพนซอร์สที่เป็นของฟรี และแบบไม่ฟรีคือ Network Edition มีทั้งค่า license และบังคับ MA ในปีแรกสำหรับตัว license มีแบบรายปีซื้อใช้ไปเรื่อยๆ ในปีที่สองที่สามคงเสียค่า license ในราคาเดิมหรือขึ้นอยู่กับนโยบายของ Zimbra ในปีนั้น ๆ กับแบบซื้อครั้งเดียวขาดไปเลย ปีที่สองปีที่สามไม่ต้องเสียค่าไลเซนต์อีก จะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงกับค่าไลเซนต์ในปีต่อ ๆ ไปตามค่าเงินของเรา ทั้งสองแบบนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างสมเหตุผลที่เราควรจะเสียค่าไลเซนต์ครับ ผมจะชี้แจงแถลงไขให้ท่านทราบในข้อแตกต่างกันนั้นเป็นประเด็น ๆ ไปให้ติดตามกัน
Zimbra Opensource ฟรี มีดีหลายอย่าง ส่วนที่ขาดจำเป็นต่อบริษัทหรือไม่?
หากท่านคิดจะเปลี่ยนจาก Microsoft Exchange เพราะเห็นว่า Zimbra เป็นของฟรี ท่านต้องคิดว่าท่านต้องการความสามารถต่อไปนี้หรือไม่
- ท่านต้องการใช้งาน Mail Collaboration กับ mobile ประเภทต่าง ๆหรือไม่ ถ้าต้องการ อย่าใช้ Opensource เพราะไม่สนับสนุน
- ท่านต้องการให้พนักงานในบริษัทใช้โปรแกรม Microsoft Outlook เป็นโปรแกรมรับส่งเมล์ต่อไปหรือไม่ ถ้าใช่ อย่าใช้ Opensource เพราะไม่สนับสนุน
- ท่านมีพนักงานหนึ่งร้อยคนต้องใช้เมล์ มีรายชื่อลูกค้าใช้ร่วมกันเป็นร้อยรายชื่อ มีการ search หาข้อมูลในเมล์เป็นหลัก ถ้าใช่ อย่าใช้ Zimbra Opensource เพราะ search ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่จะช้า
- ท่านต้องการระบบ backup และการ recovery เมล์ที่หายไปโดยกู้ขึ้นมาเป็นเมล์ๆ อย่างรวดเร็วหรือไม่ ถ้าใช่ อย่าใช้ Zimbra Opensource เพราะไม่สนับสนุน
- ท่านต้องการเปลี่ยน logo ให้เป็นชื่อและโลโกของบริษัทตนเองหรือไม่ ถ้าใช่ อย่าใช้ Zimbra Opensource เพราะเขาไม่อนุญาติให้เปลี่ยนแปลงในส่วนนี้
ถ้าความต้องการของท่านข้างบนนั้นเป็นความสำคัญในอีกสามเดือนข้างหน้าโน้น ไม่ใช่เดี๋ยวนี้ ก็ขอแนะนำให้ใช้ zimbra Opensource ได้ เมื่อมีความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งข้างบนนั้น ก็เพียงแต่ซื้อ license เพื่อ upgrade ไปเป็น Network Edition ได้ทันทีโดยข้อมูลเดิมไม่สูญเสีย เท่ากับได้ทดลองใช้ Zimbra ฟรี ๆก่อนตัดสินใจเสียเงิน
หากจะเปรียบเทียบความสามารถของ Microsoft Exchange กับ Zimbra อย่าเปรียบเทียบกับตัว Zimbra Opensource เพราะเป็นมวยคนละรุ่นคนละน้ำหนัก มันต้องเปรียบกับ Network Edition จึงจะถูกคู่ถูกน้ำหนักกัน หากจะเปรียบเทียบกับ Zimbra Opensource อย่างน้อย Microsoft Exchange ก็ไม่มีเวอร์ชั่นฟรี จริงไหม (อิอิ)
Zimbra ขาย ZCS Network Edition แยกเป็นสามแพกเกจ คือ Starter , Standard , และ Professional โดยมีลิมิตขั้นต่ำของ mailbox ในแต่ละแพกเกจ ดังนี้
- Starter ขายจำนวนเดียวเพรียว ๆเลย คือ 15 Mailbox ไม่มีค่า MA ไม่มีระบบ backup ไม่มีการ update security แบบอัตโนมัติ (ต้องทำแบบ manual) ใช้กับ mobile ต่างๆ รวมทั้ง BlackBerry ได้ อีกทั้งยังใช้ Microsoft Outlook เป็นเมล์โปรแกรมเดิมได้ด้วย เพิ่ม mailbox ภายหลังไม่ได้ เช่นมีพนักงานเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนเป็นคนที่ 16 ต้องการซื้อเมล์เพิ่ม ไม่ได้ครับ เรียกว่าขยายระบบเพิ่มไม่ได้ จึงเหมาะกับสำนักงานเล็ก ๆ ที่มีผู้ใช้เกี่ยวกับไม่เกิน 15 คน
- Standard ขายเป็นแพกเกจขั้นต่ำ 25 Mailbox ถ้าคุณมี 26 คนก็ต้องซื้อเป็นสองแพกเกจเท่ากับ 50 Mailbox และโดนบังคับให้ซื้อ MA ด้วยในปีแรกแต่ยังได้ feature ไม่ครบเพราะใช้กับ BlackBerry และ Microsoft Outlook ไม่ได้
- Professional ขายเป็นแพกเกจขั้นต่ำ 25 Mailbox เหมือนกันกับ Standard มีคุณสมบัติเต็ม ไม่ตกไม่หล่นตามที่ Zimbra จะมีให้ทั้งหมดครับ ต้องซื้อพร้อมกับ MA ในปีแรก ส่วนปีที่สองจะซื้อหรือไม่ก็ได้
สำหรับระบบ Backup & Recovery นั้น Zimbra แยกขายโดยสามารถซื้อเป็นจำนวน mailbox ที่ต้องการ backup ได้ โดยระบุ mail ที่ต้องการ backup ในหัวข้อ Admin UI
คุณผู้อ่าน...ท่านที่เคารพ มิตรรักของไอทีทริปเปิลพลัสครับ
ช่วงนี้บริษัทใหญ่ๆที่ใช้ Microsoft exchange อยู่ให้ความสนใจ Zimbra Mail เป็นทางเลือกหนึ่งในการตัดสินใจว่าจะขยับขยายไปเป็น MS Exchange เวอร์ชั่นถัดไป หรือจะเลือกใช้ Google Application โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่เทคโนโลยีไอทีกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความได้เปรียบในทางธุรกิจเหนือกว่าคู่แข่ง
Zimbra นั้นมีสองแบบครับ คือโอเพนซอร์สที่เป็นของฟรี และแบบไม่ฟรีคือ Network Edition มีทั้งค่า license และบังคับ MA ในปีแรกสำหรับตัว license มีแบบรายปีซื้อใช้ไปเรื่อยๆ ในปีที่สองที่สามคงเสียค่า license ในราคาเดิมหรือขึ้นอยู่กับนโยบายของ Zimbra ในปีนั้น ๆ กับแบบซื้อครั้งเดียวขาดไปเลย ปีที่สองปีที่สามไม่ต้องเสียค่าไลเซนต์อีก จะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงกับค่าไลเซนต์ในปีต่อ ๆ ไปตามค่าเงินของเรา ทั้งสองแบบนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างสมเหตุผลที่เราควรจะเสียค่าไลเซนต์ครับ ผมจะชี้แจงแถลงไขให้ท่านทราบในข้อแตกต่างกันนั้นเป็นประเด็น ๆ ไปให้ติดตามกัน
Zimbra Opensource ฟรี มีดีหลายอย่าง ส่วนที่ขาดจำเป็นต่อบริษัทหรือไม่?
หากท่านคิดจะเปลี่ยนจาก Microsoft Exchange เพราะเห็นว่า Zimbra เป็นของฟรี ท่านต้องคิดว่าท่านต้องการความสามารถต่อไปนี้หรือไม่
- ท่านต้องการใช้งาน Mail Collaboration กับ mobile ประเภทต่าง ๆหรือไม่ ถ้าต้องการ อย่าใช้ Opensource เพราะไม่สนับสนุน
- ท่านต้องการให้พนักงานในบริษัทใช้โปรแกรม Microsoft Outlook เป็นโปรแกรมรับส่งเมล์ต่อไปหรือไม่ ถ้าใช่ อย่าใช้ Opensource เพราะไม่สนับสนุน
- ท่านมีพนักงานหนึ่งร้อยคนต้องใช้เมล์ มีรายชื่อลูกค้าใช้ร่วมกันเป็นร้อยรายชื่อ มีการ search หาข้อมูลในเมล์เป็นหลัก ถ้าใช่ อย่าใช้ Zimbra Opensource เพราะ search ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่จะช้า
- ท่านต้องการระบบ backup และการ recovery เมล์ที่หายไปโดยกู้ขึ้นมาเป็นเมล์ๆ อย่างรวดเร็วหรือไม่ ถ้าใช่ อย่าใช้ Zimbra Opensource เพราะไม่สนับสนุน
- ท่านต้องการเปลี่ยน logo ให้เป็นชื่อและโลโกของบริษัทตนเองหรือไม่ ถ้าใช่ อย่าใช้ Zimbra Opensource เพราะเขาไม่อนุญาติให้เปลี่ยนแปลงในส่วนนี้
ถ้าความต้องการของท่านข้างบนนั้นเป็นความสำคัญในอีกสามเดือนข้างหน้าโน้น ไม่ใช่เดี๋ยวนี้ ก็ขอแนะนำให้ใช้ zimbra Opensource ได้ เมื่อมีความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งข้างบนนั้น ก็เพียงแต่ซื้อ license เพื่อ upgrade ไปเป็น Network Edition ได้ทันทีโดยข้อมูลเดิมไม่สูญเสีย เท่ากับได้ทดลองใช้ Zimbra ฟรี ๆก่อนตัดสินใจเสียเงิน
หากจะเปรียบเทียบความสามารถของ Microsoft Exchange กับ Zimbra อย่าเปรียบเทียบกับตัว Zimbra Opensource เพราะเป็นมวยคนละรุ่นคนละน้ำหนัก มันต้องเปรียบกับ Network Edition จึงจะถูกคู่ถูกน้ำหนักกัน หากจะเปรียบเทียบกับ Zimbra Opensource อย่างน้อย Microsoft Exchange ก็ไม่มีเวอร์ชั่นฟรี จริงไหม (อิอิ)
Zimbra ขาย ZCS Network Edition แยกเป็นสามแพกเกจ คือ Starter , Standard , และ Professional โดยมีลิมิตขั้นต่ำของ mailbox ในแต่ละแพกเกจ ดังนี้
- Starter ขายจำนวนเดียวเพรียว ๆเลย คือ 15 Mailbox ไม่มีค่า MA ไม่มีระบบ backup ไม่มีการ update security แบบอัตโนมัติ (ต้องทำแบบ manual) ใช้กับ mobile ต่างๆ รวมทั้ง BlackBerry ได้ อีกทั้งยังใช้ Microsoft Outlook เป็นเมล์โปรแกรมเดิมได้ด้วย เพิ่ม mailbox ภายหลังไม่ได้ เช่นมีพนักงานเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนเป็นคนที่ 16 ต้องการซื้อเมล์เพิ่ม ไม่ได้ครับ เรียกว่าขยายระบบเพิ่มไม่ได้ จึงเหมาะกับสำนักงานเล็ก ๆ ที่มีผู้ใช้เกี่ยวกับไม่เกิน 15 คน
- Standard ขายเป็นแพกเกจขั้นต่ำ 25 Mailbox ถ้าคุณมี 26 คนก็ต้องซื้อเป็นสองแพกเกจเท่ากับ 50 Mailbox และโดนบังคับให้ซื้อ MA ด้วยในปีแรกแต่ยังได้ feature ไม่ครบเพราะใช้กับ BlackBerry และ Microsoft Outlook ไม่ได้
- Professional ขายเป็นแพกเกจขั้นต่ำ 25 Mailbox เหมือนกันกับ Standard มีคุณสมบัติเต็ม ไม่ตกไม่หล่นตามที่ Zimbra จะมีให้ทั้งหมดครับ ต้องซื้อพร้อมกับ MA ในปีแรก ส่วนปีที่สองจะซื้อหรือไม่ก็ได้
สำหรับระบบ Backup & Recovery นั้น Zimbra แยกขายโดยสามารถซื้อเป็นจำนวน mailbox ที่ต้องการ backup ได้ โดยระบุ mail ที่ต้องการ backup ในหัวข้อ Admin UI
ก่อนจบวันนี้ผมมีคำถามเกี่ยวกับ Zimbra จาก Customer และเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จึงขอคัดนำมาลงไว้ที่นี่ เพื่อเป็นข้อมูลครับ..
1. การนำ Outlook 2007 มาใช้งานกับ Zimbra นั้น จำเป็นต้องใช้โปรแกรมจำพวก Synchonize เพื่อ Sync ข้อมูลกับZimbra ใช่หรือไม่ ?
- จำเป็นต้องมีโปรแกรม Synchonize เป็นโมดูลทางฝั่ง Zimbra Server ซึ่งมีอยู่เฉพาะในชุด NE Professional ส่วนตัว Outlook จะมีโปรแกรมสร้าง profile เพื่อ sync เข้ากับ Zimbra โดยมีโปรโตคอลในการ sync กันเป็นของ Zimbra เพื่อเข้าถึงการใช้ส่วนที่เป็น Groupware ครับ
2. เมื่อใช้ Outlook 2007 ผู้ใช้งานสามารถ แชร์ Contact list , Contact Group , Calendar และ Task ได้ด้วยหรือไม่ ?
- ตัว Contact ใน Zimbra มี 2 ประเภทคือ Global List และ Contact เฉพาะของแต่ละ User ที่มี Mailbox ของตนเอง เก็บเป็นฐานข้อมูลใน OpenLDAP ตัว Global List จะเป็น list ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Add mailbox ครั้งแรก ทุกคนใน domain จะมองเห็นอัตโนมัติครับ เมื่อคีย์ในช่องเมล์จะ auto input
- Zimbra ยังมีพิเศษกว่า สามารถเอา Contact เฉพาะของแต่ละ User นั้นมาสร้างเป็น Global List และกำหนดให้เห็นเฉพาะกลุ่มได้ด้วยครับ (ผมชอบตรงนี้มากเมือ present กับฝ่ายการตลาดที่สร้าง customer เป็น Global List ขึ้นมาใหม่ และแชร์ระหว่างฝ่ายการตลาดด้วยกันครับ)
3. Global Email Address จะสามารถแสดงใน Outlook เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกอีเมล์กลางเหล่านี้มาใช้งานได้ทันทีหรือไม่ ?
- ได้ทันทีครับ และเป็น Auto Input อีกด้วย
4. Protocal ที่เซตบน Outlook เพื่อเชื่อมไปยัง Zimbra นั้นเป็น Protocal ของ Zimbra เอง ไม่ใช่ IMAP หรือ POP3 ?
- ในการ Sync ส่วนที่เป็น GroupWare ใช้โปรโตคอลของ Zimbra เองครับ เป็นโมดูลฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ส่วน client จะมีโปรแกรมสร้าง profile zimbra ครับ
- Outlook ยังเข้าถึงเมล์ Box ของ Zimbra โดยใช้ IMAP และ POP3 มาตรฐานได้ เพียงแต่ใช้ระบบแชร์ริ่งไม่ได้ คงเป็นการเข้าถึงแบบหนึ่งต่อหนึ่งเท่านั้น
0 comments:
Post a Comment